ชมปรากฏการณ์งานนิทรรศการศิลปกรรมเทิดพระเกียรติ ๒ กษัตริย์ขัตติยมหาราช จัดแสดงความรักและคุณปการที่ลึกซึ้งแก่ปวงชนชาวไทย

   เมื่อ : 12 ต.ค. 2567

กรุงเทพฯ ประเทศไทย 11 ตุลาคม 2567 - ”ตุลาคม” ถือเป็นเดือนที่ปวงชนชาวไทยน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณฯของพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเทิดทูนถึง ๒ พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระปิยมหาราช) รัชกาลที่ ๕ และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (พระภัทรมหาราช) รัชกาลที่ ๙ ที่เสด็จสวรรคตในวันที่ ๒๓ ตุลาคม และวันที่ ๑๓ ตุลาคม
          

ในโอกาสนี้ บริษัท บ้านสวนธนบุรี จำกัด และกลุ่มศิลปาศรี จึงจัดนิทรรศการศิลปกรรม“เทิดพระเกียรติ ๒ กษัตริย์ขัตติยมหาราช”  เพื่อร่วมถวายผลงานแห่งความจงรักภักดี และถวายความอาลัยแด่ ทั้ง ๒ พระองค์ที่สร้างให้ประเทศไทยสามารถดำรงอยู่ได้อย่าง มีศักดิ์ศรี มีอธิปไตย ร่มเย็นผาสุกมาอย่างยาวนาน ผ่านงานศิลปะล้ำค่าจากศิลปินมากฝีมือทั้งสาขาจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย และจัดทำภาพยนตร์สั้นที่สะท้อนถึงความผูกพันและความรักอันลึกซึ้งระหว่างประชาชนและพระมหากษัตริย์ และมีผลงานศิลปะ จากศิลปินแห่งชาติและศิลปินร่วมสมัย ร่วมงานนำรายได้ส่วนหนึ่งร่วมสมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ในวันที่ ๑๑-๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ ระหว่างเวลา ๑๐.๐๐ - ๑๙.๐๐ น. ณ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่  

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.จิรนิติ หะวานนท์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานเปิดงาน กล่าวว่า นิทรรศการศิลปกรรมเทิดทูน ๒ กษัตริย์ ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๓ แสดงถึงความสัมพันธ์ทางจิตใจอันลึกซึ้งที่คนไทยทุกคนรู้สึกเมื่ออยู่ภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันเปี่ยมไปด้วยความเคารพ ศรัทธา และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้ปฏิรูปประเทศอย่างกว้างขวางในด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม ทรงยกเลิกระบบทาสและริเริ่มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ประเทศไทยก้าวทันโลกสมัยใหม่ และทรงสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับประเทศ ทำให้ไทยคงความเป็นเอกราชท่ามกลางการล่าอาณานิคมของมหาอำนาจในยุคนั้น ขณะที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนา ทรงริเริ่มโครงการในพระราชดำรินับไม่ถ้วนที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกชนชั้น โดยเฉพาะด้านการเกษตร การจัดการทรัพยากรน้ำ และการพัฒนาชนบท ผลงานของพระองค์มีผลต่อความเจริญก้าวหน้า ความอุดมสมบูรณ์ของชาติ และการสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน ทั้งสองพระองค์ทรงเป็นเสาหลักสำคัญที่ได้สร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ให้แก่ชาติบ้านเมืองอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย และทรงอุทิศพระวรกายและพระปัญญาเพื่อความสุขและความมั่นคงของประเทศ ทำให้ประชาชนชาวไทยอยู่ในความร่มเย็นเป็นสุข การเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงคุณูปการของทั้งสองพระองค์จึงเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และความภาคภูมิใจในชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจึงจัดนิทรรศการศิลปกรรมนี้ขึ้นมาเพื่อให้พสกนิกรไทยได้หวนรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชน และจารึกความทรงจำอันล้ำค่าผ่านงานศิลป์ที่งดงาม

นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.กล่าวว่า อพท. ในฐานะหน่วยงานต้นน้ำ ทำหน้าที่ในการบริหารการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งได้ดำเนินการประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนคุ้งบางกะเจ้า เมื่อปี ๒๕๖๖ ซึ่งพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าแห่งนี้ มีเรื่องราวอันทรงคุณค่า คือ พระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ที่มีต่อพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย และกำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของไทยในปัจจุบัน การเติบโตของการท่องเที่ยวในพื้นที่นี้ ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น แต่ยังส่งผลต่อการพัฒนาชุมชนในหลายด้าน โดยยึดมั่นในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งเน้นความสมดุลและความยั่งยืน อพท. จึงได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาถ่ายทอดเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการในครั้งนี้ด้วย 

นายนิวัต มหาบุณย์ ประธานบริษัท บ้านสวนธนบุรี จำกัด และกลุ่มศิลปาศรี เป็นประธานจัดงาน กล่าวว่า นิทรรศการนี้รวบรวมผลงานจากศิลปินชั้นนำของไทยกว่า ๒๕ ท่าน ซึ่งแต่ละท่านต่างถ่ายทอดแรงบันดาลใจผ่านศิลปะในหลากหลายรูปแบบ ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม และการผสมผสานด้วยศิลปะภาพยนตร์สั้นชุดใหม่ โดยผลงานของศิลปินเหล่านี้เป็นดั่งเครื่องมือที่ช่วยให้ประชาชนได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับชาติบ้านเมือง นิทรรศการนี้ต้องการสะท้อนถึงการเป็นศูนย์กลางของความรักและความเมตตาที่พระมหากษัตริย์ทรงมีต่อประชาชน เปรียบเสมือนอ้อมกอดที่อบอุ่น คุ้มครอง และปกปักรักษาประชาชนของพระองค์ตลอดมา โดยเราจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดผลงานศิลปะมาร่วมสมทบทุนมูลนิธิ เพื่อยกระดับคุณภาพประชากร เฉพาะในด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการนำพาประเทศสู่ความเจริญก้าวหน้า

การจัดงานในครั้งนี้ กลุ่มศิลปาศรี ได้รับการสนับสนุนจากหลายองค์กร อาทิ บริษัท เชฟรอนประเทศไทย สำรวจและผลิต จำกัด องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรำลึกถึง ๒ พระองค์ด้วยเช่นกัน น้องนิวเยียร์ อัญมณี กระจ่างช่วย สาวน้อยวัย 16 ปี เป็นบุตรสาวของ อ.เอก กระจ่างช่วย จิตกรและประติมากรชื่อดัง ผู้มีฝีมือในการสร้างสรรค์งานศิลปะระดับสูง ได้สร้างความประทับใจด้วยการใช้เวลาว่างปั้นพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ ๙) อย่างสง่างาม นอกจากผลงานประติมากรรมที่โดดเด่นแล้ว น้องนิวเยียร์ยังฝึกฝนการวาดภาพเปอร์สเปคทีฟ ลายเส้น ลายไทย และผลงานศิลปะอื่นๆ ซึ่งแสดงถึงความสามารถและความมุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะด้านศิลปะอย่างน่าชื่นชม  ใช้เวลาปั้นกว่า 2 ปีจึงสำเร็จออกมาสวยงาม
       

นิทรรศการศิลปกรรม “เทิดพระเกียรติ ๒ กษัตริย์ขัตติยมหาราช” จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่วันที่ ๑๑-๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ ระหว่างเวลา ๑๐.๐๐ - ๑๙.๐๐ น. ณ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้ร่วมระลึกถึงคุณูปการของพระมหากษัตริย์ไทยสองพระองค์ ผู้ทรงเป็นเสาหลักของความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของชาติ