ธนชาตประกันภัย ร่วมรณรงค์ “ง่วงอย่าขับ” ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์

ธนชาตประกันภัย ร่วมกับ กองทุนง่วงอย่าขับ มูลนิธิรามาธิบดี ย้ำเตือนความปลอดภัยบนท้องถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 “ง่วงแล้วขับ มีโอกาสหลับใน เสี่ยงอันตราย คร่าชีวิตผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ใช้รถใช้ถนน ได้ในเวลาเพียง 4 วินาที” เร่งเดินหน้ารณรงค์ลดอุบัติเหตุ ติดตั้งป้ายเตือนตามเส้นทางสายหลักและสายรองกว่า 50 จุด ใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ หวังลดความสูญเสียบนท้องถนน และสร้างความรับผิดชอบร่วมกันเพื่อสังคมที่ยั่งยืน
นางสุนีย์ กิตติเรืองวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกองทุนง่วงอย่าขับ มูลนิธิรามาธิบดี ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ “ง่วงอย่าขับ” ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 โดยเตรียมนำป้ายรณรงค์สร้างความปลอดภัยบนท้องถนน ติดตั้งกว่า 50 จุด ตามเส้นทางสัญจรใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นเตือนให้ทุกคนตระหนักถึงผลกระทบจากอาการหลับในระหว่างขับขี่ ที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยพฤติกรรมของคนขับรถ ที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ มีอาการง่วงแต่ยังฝืนขับ การหลับในแค่ช่วงระยะเวลาเพียง 4 วินาที มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดความสูญเสียทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะรถที่วิ่งด้วยความเร็ว หากคนขับหลับใน รถจะวิ่งต่อไปอีก 100 เมตร โดยไม่มีคนควบคุมการชน ซึ่งจะผลรุนแรงมากทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ทันที
บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ กองทุนง่วงอย่าขับ มูลนิธิรามาธิบดี ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยบนท้องถนน เพราะทุกอุบัติเหตุ นำมาซึ่งความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคม และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็ถือเป็นช่วงที่คนไทยเพิ่งจะผ่านพ้นการทำงานหนัก บางกลุ่มอาชีพทำงานจนมีเวลานอนไม่เพียงพอ หรืออดนอนสะสม ส่งผลต่อพฤติกรรมการขับขี่ โดยเฉพาะช่วงกลางวัน ระหว่างเวลา 13.00-15.00 น. และหลังเที่ยงคืนถึง 8 โมงเช้า ซึ่งจะพบการเกิดอุบัติเหตุจากอาการง่วงแล้วหลับมากที่สุด จึงต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยและรับผิดชอบกับทุกชีวิตบนท้องถนนร่วมกัน โดยก่อนการขับขี่ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ในระหว่างขับขี่หากมีอาการง่วงต้องรีบจอดพัก และสามารถขับรถเดินทางต่อไปได้หลังตื่นจากการงีบหลับประมาณ 10 - 15 นาที ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่สามารถชดเชยเวลานอนไม่เพียงพอ ช่วยทำให้ร่างกายตื่นตัว เพิ่มพลังสมอง จิตใจสดชื่นแจ่มใส และฟื้นฟูความอ่อนล้าได้ดีที่สุด ร่างกายมีสมรรถภาพที่เพียงพอกับการขับรถในทุกระยะของการเดินทาง
“แม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากอาการง่วงหลับใน จะไม่ค่อยถูกพูดถึงหรือมีการเก็บสถิติที่ชัดเจน แต่ก็มีความสำคัญและสร้างผลกระทบกับชีวิตบนท้องถนนเช่นเดียวกับกรณีเมาแล้วขับ ทุกคนจึงควรหันมาให้ความสำคัญร่วมกันสร้างวินัยให้กับสังคม โดยเริ่มจากการสร้างวินัยในตัวเอง ประเมินสภาพร่างกายก่อนขับรถว่าง่วงหรือไม่ หากไม่ไหวต้องหยุดรถในบริเวณที่ปลอดภัยทันที เพื่อเปลี่ยนคนขับ หากขับคนเดียว ต้องงีบหลับพักสายตา งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระวังเรื่องของการทานยาที่อาจทำให้ง่วง และควรเลือกขับในช่วงเวลากลางวันมากกว่ากลางคืน เพื่อให้สงกรานต์นี้ถึงที่หมายอย่าปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ”