“รักษ์นะ” โครงการดี ปลุก “ฮีโร่” ในตัวคุณ

   เมื่อ : 15 ธ.ค. 2566

สำนักข่าวออนไลน์ SUCCESS CHANNEL โดย แอ็คเซส เซ็นเตอร์ จัดทำโครงการ “รักษ์นะ” ขึ้น เพื่อปลุกจิตสำนึกในเรื่อง ESG ได้ 5 พันธมิตร วาโก้ / เบทาโกร / ยูบิลี่ / ชมฉวีวรรณ และ ไทยโพสต์ เข้าร่วมกิจกรรม 

 

สำนักข่าวออนไลน์ SUCCESS CHANNEL โดย บริษัท แอ็คเซส เซ็นเตอร์ จำกัด  ได้จัดกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมขึ้น ภายใต้ โครงการ “รักษ์นะ” ครั้งที่ 1  ซึ่งได้ทำพิธีมอบชุดชั้นในเก่าให้กับ “โครงการ วาโก้ บราเดย์ บราเก่า เราขอ” ที่พนักงานองค์กรพันธมิตร ได้ร่วมบริจาค ได้แก่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Jubilee บริษัท ชมฉวีวรรณ จำกัด บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) สำนักข่าวไทยโพสต์ และ ประชาชนทั่วไป 

คุณดิศราพร อิศรางกูร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็คเซส เซ็นเตอร์ จำกัด และ บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวออนไลน์ SUCCESS CHANNEL เจ้าของโครงการฯ ได้กล่าวว่า โครงการ “รักษ์นะ” ครั้งที่ 1 ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อสร้างพันธมิตรที่เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของ ESG มาร่วมกันรณรงค์ในการปลุกจิตสำนึกให้คนในองค์กรของตน และคนใกล้ตัว ร่วมกันปรับ Mindset และเปลี่ยนพฤติกรรม นำสิ่งเหลือใช้ทำให้กลายเป็นประโยชน์ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

 

อย่างในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้ประสานงานกับ โครงการ “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” สนับสนุนกล่องรับบริจากชุดชั้นในเก่าให้นำไปวางตามสำนักงานต่างๆ ซึ่งมีผู้สนใจนำมาบริจาคเป็นจำนวนมาก และเราได้จัดพิธีมอบให้กับ โครงการ “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” เพื่อทาง วาโก้ จะนำไปกำจัดโดยการเผาอย่างถูกวิธี และเปลี่ยนเป็นพลังงานเชื้อเพลิง ซึ่งตรงนี้จะช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างมาก ซึ่งในครั้งนี้เราได้พันธมิตรสาย Green เข้าร่วมดังนี้  บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Jubilee บริษัท ชมฉวีวรรณ จำกัด บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) และ สำนักข่าวไทยโพสต์ ทางบริษัทขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ” 

คุณสิริรัตน์ ชยาวิวัฒนาวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Marketing-Professional บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เบทาโกเองมีปรัชญาการดำเนินธุรกิจเพื่อทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ในTagline (ชุดคำหรือประโยคที่แบรนด์คิดขึ้นมาเพื่อบ่งบอกสิ่งที่แบรนด์หรือธุรกิจนั้นทำอยู่)  เบทาโกรใช้คำว่า Sustain Life  คืออยากให้มนุษย์มีการดำรงชีวิตอย่างยืนยาวและมีคุณภาพ คำว่า “คุณภาพ”  สำคัญสำหรับเบทาโกรมาก เพราะการดำเนินธุรกิจของเบทาโกร  เราใช้คำว่าคุณภาพทั้งเรื่องของกระบวนการจัดการสินค้าที่เราให้บริการแก่ลูกค้า  ทั้งคุณภาพชีวิตของพนักงาน และคุณภาพชีวิตในสังคมด้วย โดยการดำเนินธุรกิจของเบทาโกร ไม่ว่าจะโรงงานหรือการให้บริการต่างๆ ต้องการจะคืนสิ่งดีๆ สู่สังคม ลดทอนสิ่งที่เป็นมลพิษ  ไม่ว่าจะเรื่องของโรงงานผลิตอาหาร   การเลี้ยงสัตว์  รวมทั้งอาหารและยาที่ใช้เลี้ยงสัตว์  พวกมูลสัตว์ที่ออกมาก็จะไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม การทำอุตสาหกรรมของเบทาโกรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเยอะมาก โดยเฉพาะการที่ปล่อยคาร์บอนออกไป  เบทาโกรเล็งเห็นความสำคัญด้านนโยบายแห่งชาติเรื่องเกี่ยวกับการลดคาร์บอน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นส่วนของสิ่งที่ใช้ในอุตสาหกรรม หรือว่าสิ่งที่ปล่อยจากอุตสาหกรรมต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจวัด และวิจัยว่าเราสามารถลดการปล่อยคาร์บอนในปีต่อปีลงไปได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

คุณสิริรัตน์เพิ่มเติมเรื่องการร่วมกับ โครงการ”รักษ์นะ” ครั้งที่ 1  ว่ารูปแบบของกิจกรรม ที่ให้คนนำเอาบราเก่ามาบริจาค ไม่ใช่การบริจาคแบบไร้ทิศทาง หากแต่เป็นกิจกรรมที่มีคุณค่า สามารถนำไปส่งต่อเพื่อสร้างพลังงานทดแทนสำหรับโลกของเรา  

คุณลลิตเทพ ทรัพย์เมือง ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าวออนไลน์ สำนักข่าวไทยโพสต์ ในฐานะองค์กรสื่อที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ กล่าวว่า “ไทยโพสต์ เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG และสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว  จึงยินดีที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ โดยพยายามเผยแพร่เรื่องของ ESG  และสิ่งแวดล้อม เพื่อจะช่วยกันสื่อสารให้สังคมได้ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรกับการขจัดขยะ หรือการที่จะให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม  โดยมีข่าวสารด้านนี้ประจำทุกสัปดาห์และพยายามทำสกู๊ปอย่างต่อเนื่อง  นอกจากนี้ในองค์กรเอง ก็มีการคัดแยกขยะ  ปรับให้ใช้กระดาษลดลง เป็น Paperless มากขึ้น”

คุณอัญรัตน์  พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ยูบิลลี่ ยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการดีๆ แบบนี้ เนื่องจากเป็นโครงการเปิดกล่องรับบริจาคชุดชั้นในเก่า เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง เปลี่ยนขยะให้เป็นศูนย์ หรือ Zero Waste ช่วยลดปริมาณขยะ รวมถึงช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ซึ่งประเด็นสิ่งแวดล้อมนี้อาจเป็นประเด็นที่หลายคนคาดไม่ถึงว่าชุดชั้นในที่เราใส่ในทุก ๆ วัน หากไม่ได้รับการกำจัดอย่างถูกต้องจะเป็นภัยต่อโลกและสิ่งมีชีวิตบนโลกได้” 

 

นอกจากนั้น คุณอัญรัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในองค์กรของเรามีพนักงานเกือบ 400 ท่าน ที่บริษัทฯ ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ตระหนักรู้ปัญหาและเชิญชวนร่วมกิจกรรม เพราะยูบิลลี่มองว่าประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมเรื่องการลดขยะจากสิ่งใกล้ๆ ตัวเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก และยังเป็นการปลูกฝังให้สนใจในสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น หากร่วมด้วยช่วยกัน จะทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างได้ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ได้ไกลตัว”

คุณโสภี ฉวีวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชมฉวีวรรรณ จำกัด  กล่าวว่า “องค์กรให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม  ภายในบริษัทมีการแยกขยะ   กระดาษที่ใช้ก็เป็นกระดาษรีไซเคิล   รวมทั้งพนักงานเข้ามาทำงานที่สำนักงานเพียงสัปดาห์ละสองวัน และทำการประชุมพูดคุยสื่อสารผ่านทางเทคโนโลยี  ซื่งเมื่อลดเวลาการเข้าสำนักงาน เป็นการประหยัดเวลาและเมื่อเดินทางลดลง เท่ากับลดการปล่อยคาร์บอนด้วยและพอทราบข่าวว่า ทางบริษัท แอ็คเซส เซ็นเตอร์ จำกัด จัดโครงการ “รักษ์นะ” ครั้งที่ 1 ก็สนใจเข้าร่วม เนื่องจากชุดชั้นในเป็นของที่ต้องใช้อยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้หญิง ซึ่งพนักงานของชมฉวีวรรรณเองก็เป็นผู้หญิงเยอะ และเมื่อได้ประชาสัมพันธ์ออกไป ก็มีลูกค้าหลายคนที่มีความสนใจเรื่องงสิ่งแวดล้อม และอยากจะมีส่วนร่วมในโครงการนี้เช่นกันและอยากจะมีส่วนร่วมในโครงการนี้เช่นกัน

คุณอินทิรา นาคสกุล  ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัทไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสร่วมกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน ที่ผ่านมา วาโก้ นำกล่องรับบริจาค โครงการ “วาโก้ บราเดย์ บราเก่าเราขอ” ไปตั้งตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไปรษณีย์ไทย การประปานครหลวง หรือว่าตามสำนักงานสื่อต่างๆ  เพื่อร่วมมือกันคนละเล็กคนละน้อยในส่วนที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น น่าจะช่วยสังคม  ประเทศชาติ สิ่งแวดล้อมของเรา ได้เป็นอย่างดี” 

 

คุณอินทิรา กล่าวเพิ่มเติมว่า “ที่ผ่านมา  วาโก้ เองมีพันธกิจในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่แล้ว  โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งการกำจัดสินค้าเสื่อมสภาพอย่างถูกวิธีก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ให้ความสำคัญ บราที่เสื่อมสภาพใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายตามธรรมชาติกว่า 400 ปี  เพราะฉะนั้น เมื่อวาโก้ ร่วมกับบริษัท TPIPP หรือ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) นำบราที่เสื่อมสภาพแล้วไปกำจัดอย่างถูกวิธี  ก็ทำให้บราเหล่านี้ถูกนำไปทำเชื้อเพลิงแทนการใช้ถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้า นอกจากจะลดขยะชุมชนแล้ว ไม่สร้าง PM2.5 แล้ว  ยังเป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งในปี พ.ศ.2566 วาโก้ ตั้งเป้าว่าจะมีบราเสื่อมสภาพที่ได้รับบริจาคอยู่ที่ประมาณ 120000 ชิ้น แต่ปรากฏว่าก่อนเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ครบตามเป้าหมายแล้ว  ดังนั้นสิ้นปี 2566 นี้ จำนวนของบราที่ได้รับการบริจาค คาดว่าได้มากกว่าที่ตั้งใจไว้แน่นอน

วาโก้ทำ โครงการ  “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” ต่อเนื่องมาแล้ว 12 ปี จำนวนบราที่ได้รับบริจาคไว้ตั้งแต่เริ่มโครงการอยู่ที่ประมาณ 8 แสนกว่าตัว ถ้านับเป็นการปลูกต้นไม้ก็ประมาณ 45.000 ต้น สำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคบราที่มีขนาดไม่พอดีหรือหมดสภาพ เพื่อนำไปแปรรูปเป็นพลังงานเชื้อเพลิง สามารถบริจาคได้ที่กล่องรับบริจากตามสำนักงานต่างๆ  วาโก้ชอปและเคาน์เตอร์ ทุกสาขา หรือส่งมาที่ CSR บริษัทไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) 132 ซ.เจริญราษฎร์ 7 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ”  คุณอินทิรา กล่าว   

คุณดิศราพร ได้กล่าวเพิ่มเติมในช่วงท้ายว่า “ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงภาวะวิกฤตของสภาพภูมิอากาศ และรู้สึกเป็นห่วงสิ่งแวดล้อมที่โดนทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ ในฐานะที่เราทำงานด้านสื่อฯ เราจึงคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการที่จะทำโครงการเพื่อรณรงค์และปลุกจิตสำนึก โดยมุ่งหวังว่าโครงการ “รักษ์นะ” ครั้งที่ 1 จะมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ได้ไม่มากก็น้อย ไม่เพียงแค่ทำไปตามเทรนด์เท่านั้น สำหรับ โครงการ “รักษ์นะ” ในครั้งหน้าจะเป็นกิจกรรมประเภทไหน สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ www.successchannel.co ค่ะ” คุณดิศราพร กล่าว