“ผู้การแต้ม” จับมือ ททบ.5 เปิดตัวรายการ “แต้มต่อ” เดินหน้าให้ความรู้ประชาชน ถ่ายทอดประสบการณ์จริง ครบเครื่อง ครบรส ได้ประโยชน์ต่อยอดความคิด

   เมื่อ : 27 ก.ย. 2566

สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5 เอชดี) ร่วมกับบริษัท ดิ เอ็กซ์ โซลูชั่นส์ จำกัด แถลงข่าว เปิดตัวรายการ “แต้มต่อ” ภายใต้แนวคิด Talk Show with knowledge หรือ “คุยดีมีสาระ” ที่มีเป้าหมายสำคัญคือผู้ชมต้องได้ประโยชน์ และนำไปต่อยอดความคิด นำโดย พลเอกวิสันติ สระศรีดา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5 เอชดี) พลตำรวจตรี ดร.วิชัย สังข์ประไพ แขกรับเชิญหลักประจำรายการ “แต้มต่อ” และ คุณดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย ผู้ผลิตรายการและร่วมดำเนินรายการ พร้อมเดินหน้าให้ความรู้ประชาชน ถ่ายทอดประสบการณ์จริง ครบเครื่อง ครบรส ครบทุกบทบาท มุ่งสร้างสังคมอุดมปัญญา

พลเอกวิสันติ สระศรีดา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5 เอชดี) กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และขอต้อนรับรายการใหม่แกะกล่องของสถานี รายการ “แต้มต่อ” ซึ่งจะออกอากาศทุกวันอังคาร เวลา 20.30-21.00 น. หลังข่าวในพระราชสำนัก เริ่มวันอังคารที่ 3 ตุลาคม นี้ เผยแพร่ทางสื่อโทรทัศน์ และทางสื่อออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม ททบ. และผู้ร่วมผลิต

 

สำหรับรายการ “แต้มต่อ” เกิดจากแรงบันดาลใจของผู้การแต้มที่ตั้งใจจะนำเอาความรู้และประสบการณ์ต่างๆ ที่สะสมมาตลอดชีวิตของท่าน มาแบ่งปัน ให้แง่คิด ให้ทางออกกับสังคม โดยเฉพาะเรื่องกฎหมาย เบื้องหลังคดีดังต่างๆ ซึ่งถือว่าตรงกับอัตตลักษณ์ของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เป็นทีวีสาธารณะด้านความมั่นคงและความปลอดภัยสาธารณะ การนำเสนอ ข่าวสาร และรายการต่างๆ ที่ถูกต้อง เป็นกลาง อย่างสร้างสรรค์ และที่สำคัญให้เสนอทางออกกับสังคม

 

พลเอกวิสันติ กล่าวว่า ความร่วมมือกับบริษัท ดิ เอ็กซ์ โซลูชั่นส์ จำกัด เพื่อผลิตรายการ “แต้มต่อ” ในครั้งนี้จึงเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญ ในด้าน Content รายการ ในรูปแบบพูดคุยสบายๆ เป็นกันเอง ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ภายใต้แนวคิด Talk Show with knowledge หรือ “คุยดีมีสาระ” ที่มีเป้าหมายสำคัญคือผู้ชมต้องได้ประโยชน์ และนำไปต่อยอดความคิดได้ โดยหวังว่ารายการ “แต้มต่อ” จะเป็นอีกหนึ่งรายการที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคม และขออวยพรให้ รายการ “แต้มต่อ” ประสบความสำเร็จ บรรลุเป้าหมาย ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ชม ร่วมกัน “นำคุณค่าสู่สังคมไทย”

พลตำรวจตรี ดร.วิชัย สังข์ประไพ แขกรับเชิญหลักประจำรายการ “แต้มต่อ” กล่าวว่า รายการ “แต้มต่อ” เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่อยากจะเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่มาจากประสบการณ์ส่วนตัว ซึ่งเรียกได้ว่าครบเครื่อง ครบรส ครบทุกบทบาท ทั้งในอดีตนายตำรวจมือปราบ นักการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ ซึ่งหลายเรื่องยังไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน เพราะผมเชื่อว่าการให้ความรู้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมได้เช่นเดียวกัน

 

“ปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ที่ข่าวสารแพร่กระจายได้เร็ว เข้าถึงได้กว้าง จึงมีข้อควรระวังที่อาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนหากได้ข้อมูลที่ผิดเพี้ยน จากผิดเป็นถูก หรือถูกเป็นผิด ผมมาทำรายการ “แต้มต่อ” เพราะอยากให้ความรู้ และกระตุกสังคมให้ฉุกคิด เข้ารูปเข้ารอย โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือคนดูต้อง ได้ความรู้ ต่อยอดความคิด และมีทางออกให้กับสังคม (รู้-คิด-มีทางออก) สำหรับผมมีคติประจำใจที่ยึดถือไว้มาตลอด คือ ทำงานเพื่อนาย ตายเพื่อประชาชน ซึ่งนายในที่นี้คือ ผู้บังคับบัญชาที่สั่งการโดยถูกต้องตามกฎหมาย และอีกความหมาย นาย คือ ประชาชน รวมถึงยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ วันนี้ผมพร้อมแล้วครับที่จะนำความรู้ และประสบการณ์ที่สะสมมาทั้งชีวิตของผมในทุกบทบาท มาให้ความรู้ แง่คิด และสร้างประโยชน์ให้กับสังคมไทย ขอฝากทุกท่านติดตามชม” พลตำรวจตรี ดร.วิชัย กล่าว

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย ผู้ผลิตรายการและร่วมดำเนินรายการ “แต้มต่อ” กล่าวว่า รายการ “แต้มต่อ” เป็นเรื่องเล่าน่ารู้จากปากของ “ผู้การแต้ม” พล.ต.ต.ดร.วิชัย สังข์ประไพ นายตำรวจชื่อดัง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าของฉายา “มือปราบหูดำ” ตำรวจที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและเรียกได้ว่าเป็นตำรวจที่เป็นแบบอย่างที่ดีคนหนึ่งที่ของสังคมไทยในการให้ความรู้กับผู้คนในสังคม

 

“รายการนี้เกิดจากแรงบันดาลใจของผู้การแต้มที่ตั้งใจจะนำเอาความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่สะสมมาตลอดชีวิตทั้งในฐานะตำรวจมือปราบ นักการเมืองท้องถิ่น มาแบ่งปันให้กับผู้ที่สนใจ โดยเฉพาะเรื่องกฎหมาย เบื้องหลังคดีดังต่าง ๆ เพื่อให้แง่คิด เพื่อช่วยสร้างสังคมอุดมปัญญา” นางดรุณวรรณ กล่าว

 

นางดรุณวรรณ กล่าวว่า สำหรับรูปแบบรายการ เป็นรายการทอล์คโชว์ นั่งคุยกันระหว่างผู้การแต้มและผู้ร่วมดำเนินรายการอย่างเป็นกันเอง โดยเนื้อหาจะหยิบเรื่องราวของสังคมที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ซึ่งเป็นเรื่องที่คนในสังคมต้องการข้อมูลเท็จจริงหรือมุมมองนำมาวิเคราะห์ในมิติของ “แต้ม” รวมถึงการถอดบทเรียนเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับผู้คน ซึ่งเชื่อว่าผู้ชมที่ได้ฟัง “แต้มเล่า” โดยผู้การแต้ม จะมี “แต้มต่อ” ในการนำไปปรับใช้ในชีวิตได้อย่างมีประโยชน์แน่นอน

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ