การเคหะแห่งชาติ เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเชิงรุก ด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรมสมัยใหม่

   เมื่อ : 21 ก.ย. 2566

การเคหะแห่งชาติเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงรุก โดยนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาปรับใช้ในการทำงานขององค์กร พร้อมจัดกิจกรรมการบรรยายและเสวนาทางวิชาการฯ ให้ความรู้แก่ผู้ปฏิบัติงานการเคหะแห่งชาติทุกระดับ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และบรรลุเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม

ดร.ธีรภัทร ประยูรสิทธิ กรรมการการเคหะแห่งชาติ และประธานกรรมการการจัดการความรู้และนวัตกรรม กล่าวว่า ปี 2566 คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้การเคหะแห่งชาติ รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขับเคลื่อนการดำเนินงาน โดยนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาปรับใช้ในการดำเนินงานเชิงรุกขององค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และนำไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ “สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี”

ดร.ธีรภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า การเคหะแห่งชาติ ได้ดำเนินการเผยแพร่องค์ความรู้ให้กับผู้ปฏิบัติงานการเคหะแห่งชาติทุกระดับ และชาวชุมชนการเคหะแห่งชาติ เพื่อนำองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กรให้บรรลุเป้าหมาย อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านกิจกรรมการบรรยายและเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ “City and Housing Net Zero Carbon Emissions” เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 หัวข้อ (เมืองอัจฉริยะน่าอยู่อย่างยั่งยืน) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 และ และจัดกิจกรรมสัปดาห์ AI กับการพัฒนาที่อยู่อาศัยใน 3 หัวข้อ ประกอบด้วย AI ด้านการตลาดและการขาย เพื่อส่งเสริมการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และเพิ่มยอดขายให้องค์กร AI การวิเคราะห์ข้อมูลด้านที่อยู่อาศัย เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทั้งอุปสงค์และอุปทานที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย และAI ด้านการเงิน เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน เช่น การวิเคราะห์งบกระแสเงินสด เมื่อวันที่ 21 23 และ 25 สิงหาคม 2566

 

“การเคหะแห่งชาติ ให้ความสำคัญกับการนำผลการศึกษา วิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ชุมชนบ้านลอยน้ำ บ้านประหยัดพลังงาน บ้านสะเทินน้ำสะเทินบก บ้าน 1 วัน 1 หลัง บ้านผู้สูงอายุแบ่งให้เช่า การออกแบบที่อยู่อาศัยโดยใช้เทคโนโลยีด้านพลังงาน น้ำ และการกำจัดขยะมูลฝอย นำไปใช้ในโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางให้เข้าถึงที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน พร้อมทั้งให้มีการบริหารจัดการสภาพแวดล้อมชุมชนของการเคหะแห่งชาติให้น่าอยู่ ทั้งการจัดการขยะ น้ำเสีย และเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีอาชีพ มีรายได้ มีความสุข เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนการเคหะแห่งชาติให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ เป็นชุมชนน่าอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป” กล่าวในที่สุด