TIPH แรงไม่หยุดทะยานเข้า SET100 เพิ่มโอกาสนักลงทุนสถาบันถือหุ้นเพิ่ม
TIPH แกร่งตามคาด ! ล่าสุดวันที่ 20 มิ.ย. 2565 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ประกาศให้หุ้นของบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ได้รับการบรรจุเข้าคำนวณในดัชนี SET100 ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 (1 ก.ค. - 31 ธ.ค. 2565) โดยมีผลหลังปิดตลาดฯ วันที่ 30 มิ.ย. 2565 ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์การลงทุนจากหลายสำนักประเมินไว้ก่อนหน้านี้ หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบรับแผนการดำเนินธุรกิจที่จะเกิดขึ้นภายหลังการปรับโครงสร้างฯ ด้าน ดร.สมพร ระบุการที่หุ้นของ TIPH ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี SET100 ในครั้งนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน และเพิ่มโอกาสให้กลุ่มผู้ถือหุ้นของ TIPH ที่เป็นนักลงทุนสถาบันมีสัดส่วนมากขึ้น
ดร. สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศผลการคัดเลือกให้หุ้น TIPH เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET100 ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นอีกครั้งที่สะท้อนให้เห็นว่าปัจจุบัน TIPH ได้ขึ้นมาเป็น 1 ใน 100 ของบริษัทที่มูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงที่สุดของตลาดหุ้นไทยแล้ว รวมถึงยังแสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องในการซื้อขาย (Liquidity) ที่สูงอย่างสม่ำเสมอ และมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ผ่านเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานของตลาดหลักทรัพย์ฯด้วย สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจของนักลงทุน ที่มีต่อปัจจัยพื้นฐาน และแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ”
ทั้งนี้ถือว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ภายหลังการปรับโครงสร้างฯ ที่หุ้น TIPH ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่การคำนวณในดัชนีสำคัญทั้งในระดับสากล และในประเทศไทย โดยที่ก่อนหน้านี้หุ้น TIPH ได้ถูกบรรจุเข้าสู่การคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap ในระดับสากล และดัชนี FTSE SET Mid-Cap Index ของประเทศไทยมาแล้ว“ผมมีความเชื่อมั่นว่าการเข้าคำนวณในดัชนี SET100 ของหุ้น TIPH ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนแล้ว จะทำให้หุ้น TIPH เข้าไปอยู่ในความสนใจจากนักลงทุนสถาบันในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ก่อนหน้านี้อาจมีข้อจำกัดที่จำเป็นต้องลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET100 เท่านั้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนผู้ถือหุ้นในกลุ่มที่เป็นนักลงทุนสถาบันมากขึ้น จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในภาพรวม และในระยะยาวด้วย” ดร. สมพร กล่าวทิ้งท้าย