อีตั้น อิเล็คทริค ประเทศไทย เปิดแผนธุรกิจปี 66 เน้นความยั่งยืนในการทำธุรกิจพร้อมผลักดันธุรกิจสีเขียว
บริษัท อีตั้น อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (Eaton) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการพลังงานระดับโลกได้เปิดแผนธุรกิจสำหรับปี 2566 และร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานจัดเสวนาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนและการผลักดันธุรกิจสีเขียวให้แพร่หลายในประเทศไทย โดยมีผู้ร่วมเสวนาคือ คุณอาทิตย์ เวชกิจ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน และคุณรวิวัฒน์ พนาสันติภาพ นายกสมาคมบริษัทจัดการพลังงานไทย พร้อมคุณพีรศุษม์ ธีระโกเมน อุปนายกสมาคมบริษัทจัดการพลังงานไทย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ
คุณสุภัทรา รามสูต ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีตั้น อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยว่า “เป้าหมายสำคัญของ อีตั้น คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้เทคโนโลยีและการให้บริการด้านการจัดการพลังงาน โดยตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา อีตั้น ได้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 16% ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่จะลดการปล่อยลงให้ได้ 50% ภายในปี 2030 และปริมาณของก๊าซที่ลดลงจนถึงปัจจุบัน เทียบได้กับจำนวนก๊าซที่ปล่อยออกมาจากรถยนต์ถึง 30000 คัน อีตั้น ยังบรรลุเป้าหมายด้านการจัดการน้ำและกำจัดของเสีย โดยประสบผลสำเร็จกว่า 50% จากเป้าที่ตั้งไว้ และเร็วกว่าเวลาที่กำหนดถึง 4 ปี ในปี 2021 ที่ผ่านมา 65% ของยอดขายสุทธิของอีตั้นมาจากยอดขายสินค้าในกลุ่มธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านพลังงานความเสถียรในพลังงานไฟฟ้า และการเพิ่มคุณภาพอากาศ ซึ่งเป็นแนวทางที่เราคาดหวังว่าจะเน้นหนักให้มากยิ่งขึ้น
นับแต่ปี 2020 เป็นต้นมา อีตั้นได้ลงทุนไปมากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของเราที่จะทำการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาด้วยวงเงินถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2030
สำหรับ อีตั้น ประเทศไทย ก็ได้มีการดำเนินการตามแผนแม่บทของ อีตั้น สำนักงานใหญ่ด้วยเช่นกัน โดยในปี 2023 นี้ เราจะชูจุดเด่นในเรื่องการสร้างความยั่งยืนในการทำธุรกิจ ซึ่งเราถือว่าเป็นความท้าทายที่เราจะต้องเอาชนะ และช่วยกันผลักดันสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ในประเทศไทย เพื่อส่งต่อไปให้กับคนในรุ่นต่อๆไปด้วยเช่นกัน โดยเราได้เน้นไปที่การสร้างสรรค์แนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนสำหรับธุรกิจ โดยจะเน้นไปที่ 4 พันธกิจหลัก ซึ่งได้แก่
1) ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านแหล่งพลังงาน จากแนวโน้มทั่วโลกที่ต้องการทดแทนการใช้เชื้อเพลิงจากคาร์บอนด้วยพลังงานหมุนเวียน อีตั้นจึงนำเสนอแนวคิด Everything as a grid เพราะอุปกรณ์ต่างๆในปัจจุบันสามารถรับและจ่ายไฟฟ้าได้สองทิศทาง อีตั้นจึงช่วยลูกค้าและชุมชนในการวางแนวทางการจ่ายไฟ การกักเก็บและบริโภคพลังงาน เพื่อให้เจ้าของบ้าน และเจ้าของธุรกิจสามารถลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้
2) การใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนยานพาหนะ เพราะการเปลี่ยนจากการพลังงานเชื้อเพลิงมาเป็นไฟฟ้าเป็นหัวใจสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นอีตั้นจึงมีผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการผลิตเครื่องชาร์จไฟแบบครบวงจร เพราะนี่คืออนาคตที่สำคัญของโลกแห่งยานยนต์
3) การก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล เป็นการเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลคือตัวขับเคลื่อนพื้นฐานสู่ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน การนำซอฟแวร์ Brightlayer ของอีตั้นมาใช้ในการประมวลผลข้อมูลทำให้เห็นภาพรวมในการใช้พลังงาน ซึ่งนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านการจัดการพลังงาน เพื่อความปลอดภัยขึ้น ชาญฉลาดมากขึ้นและยั่งยืนกว่าสำหรับอนาคต
4) การออกแบบผลิตภัณฑ์โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เมื่อประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผลิตภัณฑ์ของอีตั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ เช่น ผลิตภัณฑ์ RMU รุ่น Xiria ที่เปิดตัวในปี 2002 ด้วยการผลิตแบบเทคโนโลยีสูญญากาศปลอดก๊าซ SF6 - ก๊าซอันตรายที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน และได้ขายไปทั่วโลกมากกว่าหนึ่งแสน เป็นต้น
ทางอีตั้นเชื่อว่าการเสวนาในวันนี้จะเป็นการร่วมมือกันในการที่จะผลักดันให้เกิดโมเดลทางธุรกิจที่จะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยเพื่อให้กับคนในยุคต่อไปให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งจะเป็นการช่วยเกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศไปในทิศทางที่ดีและสร้างสรรค์ โดยเราจะนำทั้ง 4 แนวทางหลักที่กล่าวมาข้างต้นมาเป็นแกนหลักในการทำธุรกิจ พร้อมทั้งจับมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์ธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืนสืบไป”คุณสุภัทรากล่าวทิ้งท้าย
อนึ่ง อีตั้น เป็นบริษัทจัดการพลังงานระดับโลกอัจฉริยะที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตและปกป้องสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้คนทุกที่ อีตั้นมีแนวทางที่มาจากความมุ่งมั่นของเราที่จะทำธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อดำเนินการอย่างยั่งยืน และช่วยลูกค้าของเราในการจัดการพลังงาน ─ ทั้งวันนี้และอนาคต ด้วยการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตทั่วโลกของการใช้พลังงานไฟฟ้าและระบบดิจิทัล เรากำลังเร่งการเปลี่ยนผ่านของโลกไปสู่พลังงานหมุนเวียน ช่วยแก้ปัญหาความท้าทายด้านการจัดการพลังงาน โดยอีตั้นให้บริการลูกค้าในกว่า 175 ประเทศทั่วโลกรวมไปถึงประเทศไทย Eaton ก่อตั้งขึ้นในปี 1911 และเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีการจดทะเบียนใน NYSE ในปีนี้