อีมิเเน้นท์ เครื่องปรับอากาศแบรนด์ไทย ฉลองครบรอบ 45 ปีอย่างยิ่งใหญ่ โชว์ยอดขายปี 2565 เติบโต 15%  พร้อมประกาศแผนธุรกิจปี 2566 เดินหน้าพัฒนาแอร์ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านช่องทางดีลเลอร์ใหญ่มากกว่า 200 รายทั่วประเทศ และมุ่งขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ผ่านโซเชียลมีเดีย ตั้งเป้าสิ้นปียอดเติบโตประมาณ 30-50%

จรรยาพร สุนทรวสุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีมิแน้นท์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า EMINENT (อีมิเน้นท์)  คือผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศอันดันต้นๆ ของประเทศไทย โดยมีโรงงานอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ  ที่ผ่านมาอีมิเเน้นท์ถือเป็นเครื่องปรับอากาศแบรนด์ไทยที่ทั่วโลกให้การยอมรับอย่างดีมาก เนื่องจากที่ผ่านมาเรามีการพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น
 

ทั้งนี้บริษัทฯ ยังผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับระบบแอร์แบบครบวงจร Total  Air Solution ส่งผลให้ เครื่องปรับอากาศมิอีเเน้นท์ เป็นแบรนด์ไทย ที่สามารถติด Top10  ปัจจุบันภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน (Residential) มีมูลค่า 25000 ล้านบาท และเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ (ตลาดแอร์คอมเมอร์เชียล) มีมูลค่ารวม 14000 ล้านบาท รวมมูลค่าตลาดเครื่องปรับอากาศทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 39000 ล้านบาท โดยอีมิเม้นท์มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 18% ขณะที่ยอดขายในปี 2565 เติบโตประมาณ 15%

“ถึงแม้ว่าตลาดเครื่องปรับอากาศในปีที่ผ่านมาเกิดการชะลอตัว เนื่องจากวัตถุดิบในการผลิตขาดแคลน ได้แก่ ชิป และเซมิคอนดักเตอร์ ที่อยู่ในชุด contral ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น 40%  ประกอบกับค่าเงินบาทมีปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 18%  จึงทำให้เครื่องปรับอากาศมีราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30%  แต่อย่างไรก็ตามอีมิเเน้นท์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ได้แก่ Eminent Air Earth Care Fixed Speed R32 และ Eminent Excel Inverter Double First Class และ Premium First Class  ซึ่งเป็นเครื่องปรับอากาศที่เย็นเร็ว และประหยัดไฟ” จรรยาพร กล่าว

สำหรับช่องทางการตลาดหลักของบริษัทฯ  ยังเป็นร้านค้าจำหน่ายเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ ประมาณ 200-300 แห่งทั่วประเทศ โดยภาคใต้ถือเป็นตลาดใหญ่ของบริษัทฯ  และเครื่องปรับอากาศที่ทำรายได้หลัก คือ เครื่องปรับอากาศกลุ่ม Fixed Speed สามารถแบ่งสัดส่วนยอดขายเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน 70% และ Fixed Speed 30%

จรรยาพร กล่าวอีกว่า ในปี 2566 อีมิเเน้นท์แอร์ มีวางแผนทางการตลาดไว้  5 กลยุทธ์  เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่เป้าหมายที่วางไว้ คือ 1. การเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดี หรือ Experience ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ผ่านสินค้าและบริการ ซึ่งได้มีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง 2. ศูนย์บริการ Eminent Air ปัจจุบันมีอยู่ 60 ศูนย์  โดยปีนี้จะขยายเพิ่มให้ครบ 77 ศูนย์เพื่อให้ครอบคลุมการบริการลูกค้าทั่วประเทศ  3. Education มุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ช่างแอร์ พร้อมมี License เพื่อรับรองมาตรฐานความชำนาญในการติดตั้ง  โดยการร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมอาชีวศึกษา ที่ผ่านมามีการต่อปีช่างของอีมิเน้นท์แอร์ ที่ได้ผ่านมาตรฐานและการรับรองแล้วกว่า 200 คน อีกทั้งยังช่วยเหลือนักเรียนในสายอาชีพ ให้มีความสามารถและชำนาญในเรื่องของการติดตั้งและล้างแอร์ รวมถึงการนำเทคโนโลยี VR หรือ Versual Reality มาเทรนนิ่งสอนช่างแอร์ และนักเรียนอาชีวะทั่วประเทศ ให้มีทักษะประกอบและติดตั้งอย่างมืออาชีพ

ส่วนกลยุทธ์ที่ 4. อีคอมเมิร์ช   ได้มีการปรับและพัฒนาช่องทางจำหน่ายเข้าไปสู่โลกออนไลน์ ด้วยการเปิด Versual Shop ซึ่งรูปแบบดังกล่าวจะมีทั้งโชว์รูม และร้านค้าผ่านช่องทาง V-Avenue by AIS 5G  อย่างไรก็ดีปีนี้ บริษัทฯ ได้มีการพัฒนาร้านค้าบนโลกเสมือนใหม่ขึ้นมาเอง เพราะต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังคนรุ่นใหม่ โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าในร้านค้าโลกเสมือนได้ทันที ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนา และ 5. Environment บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ซึ่งเตรียมพัฒนาน้ำยาตัวใหม่คือ R290 เป็นสารทำความเย็นธรรมชาติ ไม่ทำลายชั้นโอโซน และมีค่าก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนต่ำ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับตลาดในยุโรปที่ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

จรรยาพร กล่าวทิ้งท้ายว่า ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าว และกระแสการตอบรับที่ดี เชื่อว่าในปี 2566 บริษัทฯ จะมียอดขายการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30-50%  และการฉลองครบรอบ 45 ปีนี้ ขอขอบคุณพันธมิตร และคู่ค้า ทุกท่านอย่างมากที่ยังคงเคียงข้างช่วยสนับสนุน อิมิเน้นท์ มาโดย บริษัทฯ ขอตอบแทนโดยการเดินหน้าพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ รวมถึงการบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าประทับใจให้มากที่สุด”