ทิพยประกันภัย โชว์ความแข็งแกร่ง ทริสเรทติ้ง ประเดิมจัดอันดับเครดิตองค์กรครั้งแรกอยู่ที่ระดับ “AAA” สูงสุดในกลุ่มธุรกิจประกันภัย และแนวโน้มเครดิตที่ “Stable”
ทิพยประกันภัย ตอกย้ำความแข็งแกร่งทางการเงิน ทริสเรทติ้ง สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับสากล ประเดิมจัดอันดับเครดิตขององค์กรครั้งแรกอยู่ที่ระดับ “AAA” สูงที่สุดในกลุ่มบริษัทประกันวินาศภัยไทย พร้อมทั้งให้แนวโน้มอันดับเครดิตที่ ”Stable” สะท้อนถึงฐานะการเงินที่เข้มแข็ง หลังผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน
ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ทริสเรทติ้ง สถาบันจัดอันดับเครดิตที่มีความน่าเชื่อถือระดับสากล ได้ทำการจัดอันดับเครดิตของบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยจัดอันดับเครดิตองค์กรอยู่ที่ระดับ “AAA” (ทริปเปิลเอ) ซึ่งเป็นอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดในกลุ่มบริษัทประกันวินาศภัยไทย พร้อมทั้งให้แนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทที่ “Stable” ตอกย้ำถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่งของทิพยประกันภัย และผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาได้อย่างมั่นคง
ทั้งนี้ การได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับสูงครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ทิพยประกันภัย มีฐานะการเงินที่มั่นคงและแข็งแกร่งมาก อีกทั้งทาง ทริสเรทติ้ง ยังมองถึงสถานะทางธุรกิจในระดับดีเยี่ยม มีผลกำไรจากการรับประกันภัยที่ดี มีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง สภาพคล่องที่เพียงพอ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อเนื่อง สอดคล้องกับลักษณะพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ตลอดจนการมีธรรมาภิบาลที่ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนบริษัท ภายใต้กลุ่มธุรกิจประกันภัยของบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ให้เติบโตได้อย่างมั่นคง
ดร.สมพร กล่าวต่อว่า จากรายงานของทริสเรทติ้ง ยังระบุด้วยว่า TIP จะคงสถานะทางการแข่งขันในฐานะหนึ่งในบริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำของประเทศไทยได้ในอนาคต โดยเฉพาะการเป็นบริษัทที่ให้บริการรับประกันภัยประเภท Non Motor ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด และครองส่วนแบ่งทางการตลาดใหญ่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการรับประกันภัยด้านอุบัติเหตุและสุขภาพ (A&H) เบ็ดเตล็ดอื่นๆ และอัคคีภัย ที่สำคัญ TIP ยังสามารถปรับตัวรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยภายนอกได้ดี จากการที่มีผลิตภัณฑ์การรับประกันภัยที่มีความหลากหลาย การรับประกันภัยอย่างระมัดระวัง และการส่งประกันภัยต่ออย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่เข้มแข็ง ครบวงจร ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ผ่านความร่วมมือกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ TIPH ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย รวมถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านนายหน้าประกันภัยที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) และแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับ TIP ประกอบกับ ยังมีทิศทางการลงทุนต่อยอดในอนาคตที่ชัดเจน ทั้งในด้านนวัตกรรมทางการเงิน และแพลตฟอร์มดิจิทัลของ TIPH ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ส่วนแบ่งรายได้ของ TIP ได้อีกทางหนึ่ง
จุดเด่นของ TIP ในมุมมองของทริสเรทติ้งอีกประการสำคัญก็คือ ความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอนาคต โดยประเมินว่าผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 20% ในช่วงปี 2566-2567 อีกทั้งยังมีสถานะเงินกองทุนในระดับที่แข็งแกร่งในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจาก TIP สามารถบริหารจัดการรองรับความเสี่ยงจากการรับประกันภัยได้รอบด้าน และมีกลยุทธ์การลงทุนที่มุ่งเน้นรายได้ที่มั่นคง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตของธุรกิจที่แข็งแกร่ง ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น ลูกค้า และผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน