“กรุงไทย” ผนึกกำลังสถาบันการเงินรัฐ-เอกชน จัดใหญ่ “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจรเชียงใหม่” ยืนหยัดเคียงข้างคนไทยแก้หนี้อย่างยั่งยืน
“ธนาคารกรุงไทย” นำทัพสถาบันการเงินของรัฐและเอกชน 15 หน่วยงาน ช่วยลูกค้าแก้หนี้แบบครบวงจร ในงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 3 ที่เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ จัดเต็มมาตรการแก้หนี้ พร้อมเสริมสภาพคล่องอัตราดอกเบี้ยพิเศษ คัดสรร 30 ร้านค้าชุมชนออกร้าน เพิ่มโอกาสขายสินค้า สร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ตระหนักถึงผลกระทบของปัญหาหนี้ครัวเรือน ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ จึงมุ่งมั่นช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังกลับมาไม่เต็มที่ และอาจได้รับผลกระทบเพิ่มจากภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น ด้วยการลดภาระทางการเงิน ให้สอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายและความสามารถในการชำระหนี้ พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน ด้วยการเสริมความรู้ทางการเงิน และสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม รวมถึงส่งเสริมรายได้ให้กับลูกค้า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและลูกค้าทุกกลุ่มให้ดีขึ้นในทุกมิติ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน
ล่าสุด ธนาคารกรุงไทยได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 16 – 18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยประสานพลังกับสถาบันการเงินของรัฐและเอกชน รวม 15 หน่วยงาน นำเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างครบวงจรจากสถาบันการเงินของรัฐและธนาคารพาณิชย์ ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดค่างวดการผ่อนชำระ ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ รวมถึงการเสริมสภาพคล่องให้กับลูกค้า ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ โดยผลของการจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร 2 ครั้งที่ผ่านมา ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์และได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการจำนวนมาก โดยมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจรฯ ครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ มีผู้ขอรับบริการภายในงานกว่า 15000 รายการ และมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจรฯ ครั้งที่ 2 ที่ขอนแก่น มีผู้ขอรับบริการภายในงานกว่า 6000 รายการ
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยนำเสนอมาตรการช่วยเหลือลูกค้าภายใต้แนวคิด “ติดปีกการเงินไทย สู่ความยั่งยืน” ผ่านมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกค้ารายย่อย ด้วยวิธีการรวมหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น มาตรการช่วยเหลือพิเศษเพื่อแก้หนี้อย่างยั่งยืน สำหรับลูกค้าประเภทบุคคลและลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ทั้งลดอัตราดอกเบี้ย ลดค่างวด การชำระหนี้แบบ Step Up พักชำระเงินต้นและชำระเฉพาะดอกเบี้ย เปลี่ยนประเภทหนี้วงเงินกู้หมุนเวียน (Revolving Loan) เป็นวงเงินกู้แบบมีกำหนดระยะเวลา (Term Loan) รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยการโอนทรัพย์ชำระหนี้ การแปลงหนี้เป็นทุน และการขยายระยะเวลาผ่อนชำระ พร้อมเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจด้วย สินเชื่อกรุงไทยบ้านให้เงิน สินเชื่อกรุงไทย Smart Money สินเชื่อ Krungthai SME Smart Shop เป็นต้น
ภายในงาน มีบริการปรึกษาแก้ไขปัญหาหนี้กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย ปรึกษาแก้ไขหนี้เสียบัตรเครดิตกับคลินิกแก้หนี้โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ NPA กับบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) และบริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IAM) พร้อมบริการตรวจสุขภาพทางการเงินกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร)ฟรี เติมความรู้วางแผนจัดการเงินส่วนบุคคล รู้ทันกลโกงการลงทุนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรึกษาการวางแผนการออมเพื่อการเกษียณกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และบริการทางการเงินอีกมากมายจากสถาบันการเงินพันธมิตร
พร้อมร่วมรับฟังปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “สมุดพกเครดิตบูโรแบบไหน..ไปต่อได้” โดย นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ร่วมแชร์ประสบการณ์กับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ในงานเสวนา ภายในหัวข้อ “การก้าวผ่านวิกฤต สู่อนาคตธุรกิจยุคใหม่ อย่างยั่งยืน” กับนายสุพงษ์ ลักษณ์ธนากุล กรรมการ บริษัท ลักษณ์ธนากุล จำกัด และนายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด
นอกจากนี้ ธนาคารยังสนับสนุนร้านค้าชุมชนกว่า 30 ร้านค้า มาออกร้านขายสินค้าภายในงาน เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ที่มากขึ้น เสริมความแข็งแกร่งให้กับชุมชน ให้พึ่งพาตนเอง สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของธนาคารที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ตามวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”