TQMalpha โชว์ฟอร์มแกร่ง! งบไตรมาส 3/65 กำไรพุ่งแรง 14% ที่ 206 ล้านบาท
บมจ. ทีคิวเอ็ม อัลฟา (TQMalpha) ผลงานโดดเด่นประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2565 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว โดยไตรมาสนี้มีรายได้รวม 925 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตที่ดีของยอดขายที่ได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทสามารถสร้างยอดขายจากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าใหม่ซึ่งเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น และยอดขายจากประกันภัยบ้านที่ลูกค้าเริ่มเห็นความสำคัญจากการตระหนักในภัยพิบัติที่มีโอกาสเกิดขึ้นทุกปี ตลอดจนการเติบโตของยอดขายประกันสุขภาพที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องนับจากมีการเกิดโรคระบาด คาดในไตรมาส 4 ยังโตตามเป้าและทำสถิติ High Season เหมือนทุกปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันผู้บริหารเชื่อมั่นภาพรวมปี 2565 บริษัทจะสามารถทำผลงานได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 29000 ล้านบาท
ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQMalpha เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 ว่า บริษัท ฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว มีรายได้รวม 925 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายทุกช่องทางทั้ง Tele sale และออนไลน์ โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดขายเติบโตยังคงเป็นประกันภัยรถยนต์ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท เนื่องด้วยจำนวนลูกค้าใหม่มีการขยายตัวมากขึ้นจากการฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจที่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น รวมถึงประกันภัยบ้านมียอดขายเพิ่มขึ้นภายหลังที่บริษัทมีการใช้กลยุทธ์ในการสร้างการเรียนรู้ให้แก่ผู้บริโภคได้เข้าใจถึงผลประโยชน์จากความคุ้มครองของประกันภัยบ้านและการพัฒนาแพลตฟอร์มในการให้บริการที่สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ภัยพิบัติในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในทุกปีส่งผลให้คนหันมาซื้อประกันภัยบ้านมากขึ้น ขณะที่ประกันสุขภาพเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่ยังคงทำยอดขายได้ดีจากเทรนด์ด้านสุขภาพที่เติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ไร้สถานการณ์โรคระบาด
ในปีนี้บริษัทฯ มีการปรับยุทธศาสตร์และโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็น TQMalpha ที่เป็นมากกว่าธุรกิจนายหน้าประกัน สู่ธุรกิจการเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ทั้งนี้ การขยายธุรกิจใหม่ก็เริ่มสร้างรายได้และกำไรได้แล้ว โดยไตรมาสนี้มีค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลงอยู่ที่ 223 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัท ฯ ยังสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ไว้ได้ในระดับที่ 52% ซึ่งยังใกล้เคียงกับไตรมาสที่แล้ว
สำหรับในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 บริษัท ฯ ได้เตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยอย่างเต็มรูปแบบในทุกช่องทาง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์ ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะประกันสุขภาพที่ใช้ลดหย่อนภาษีจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคมีความต้องการสูงมากในไตรมาส 4 ขณะที่ธุรกิจใหม่ทั้งธุรกิจการเงินและเทคโนโลยีแพลตฟอร์มก็ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตเพื่อให้สามารถสร้างรายได้ให้เท่ากับธุรกิจนายหน้าประกันภัย และเชื่อมั่นว่าภาพรวมผลประกอบการทั้งปีจะทำผลงานได้ดีตามเป้าหมายที่วางไว้ 29000 ล้านบาท ดร.อัญชลินกล่าว